พลิกมุมคิดใหม่ ไม่กลับมาอ้วนอีก!

0
1422
Facebook
LINE
Twitter
Google+

ความคิด
ความคิด

ปัญหาน้ำหนักตัวที่วนเวียนกลับมาอยู่เรื่อย อาจเป็นผลมาจากความคิดในหัวเราก็ได้ ดังนั้นถ้าอยากเอาชนะไขมันรอบเอวแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ต้องรู้วิธีเทรนสมองให้มาเข้าข้างเราค่ะ

เราทุกคนรู้ดีว่าเคล็ดลับการลดน้ำหนักคือกินอาหารที่ให้แคลอรีต่ำกว่าแคลอรีที่เราเบิร์นออกไป ทําตามนี้คุณจะมีสิทธิ์ใส่ยีนส์ตัวโปรดที่เคยใส่ตอนผอมได้ในเวลาไม่นาน แล้วทําไมไม่เห็นทุกคนจะผอมเพรียวหุ่นเป๊ะเหมือนซูเปอร์โมเดลอย่าง ไฮดี คลูม (Heidi Klum) เลยล่ะ นี่เป็นเพราะการคุมน้ำหนักไม่ให้เด้งกลับมาโยโย่อีกนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการนับแคลอรีเข้าปากหรอกค่ะ สาวส่วนใหญ่มีความรู้ทางโภชนาการที่เน้นเพียงแค่นับจํานวนแคลอรีที่เข้าและออกจากร่างกายเท่านั้น แต่ยังขาดปัจจัยสําคัญที่มีผลต่อการลดน้ำหนักไปสองอย่างคือ “การเปลี่ยนแปลงความคิด และพฤติกรรม”

ถ้าจะอธิบายให้ง่ายขึ้นก็ต้องบอกว่า หากคุณไม่อยากหล่นจากสวรรค์ของคนหุ่นดี เวลาอกหักครั้งต่อไปคุณต้องฝึกสมองให้คิดเป็น การเลิกนิสัยการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพจะสําเร็จได้ก็ด้วยการท้าทายความคิด ความรู้สึก และปฏิกิริยาตอบสนองที่เราเคยทําซ้ำๆมาตลอดชีวิต เราไม่อยากพูดให้เป็นทฤษฎีจิตวิทยามากเกินไป แต่หมอและผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้าหนักหลายคนเห็นตรงกันว่า ถ้าอยากลดรอบเอวได้ถาวร เราจําเป็นต้องเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ของเรากับอาหาร หมายถึงเราต้องมีสติรู้ว่าตัวเองกําลังกินตามอารมณ์ และตั้งเป้าเลิกพฤติกรรมนี้ให้ได้ นอกจากนั้นยังต้องฝึกใจตัวเองให้คุ้นชินกับพฤติกรรมการกินที่ดีต่อสุขภาพด้วย

นักจิตวิทยาพฤติกรรมพบว่า หากเลิกคิดอะไรในแง่ลบไปที่ละเรื่อง เราสามารถเปลี่ยนนิสัยให้กลายเป็นคนคิดบวกได้ พฤติกรรมการกินก็เหมือนกัน มาลองทําตามเคล็ดลับดีๆและแบบฝึกหัดที่เรานํามาฝาก จะได้ไม่ต้องแจ้นไปปรึกษาจิตแพทย์ให้เปลืองเวลา

เผชิญหน้ากับความรู้สึกที่แท้จริง

เผชิญหน้า
เผชิญหน้า

กางเกงเริ่มคับหลังจากคุณงอนเพื่อนซี้ใช่หรือเปล่า นี่เป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะผู้หญิงมักใช้อาหารปลอบใจตัวเองเวลาเจอปัญหา สาวๆมีโอกาสที่จะกินไม่ยังเมื่อรู้สึกเศร้ามากกว่าผู้ชายถึง 2 เท่า อย่างไรก็ดี เวลาอารมณ์ไม่ดีผู้หญิงจะเลือกกินอาหารที่มีน้ำตาลเยอะๆ เพราะอาหารคาร์โบไฮเดรตสูงจะช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ปรับอารมณ์ให้มีความสุข สมองเราพบว่าเมื่อได้กินคาร์โบไฮเดรตแล้วน้ำตาลถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย สมองของบางคนจะเกิดภาวะสุขสุดขีดเหมือนๆกับเวลาที่คนติดยาได้เสพยา ดังนั้นคราวต่อไปที่คุณอยากฉีดทอฟฟี คาราเมลเข้าเส้นสักกล่อง หยุดสักนิดและถามตัวเองว่าตอนนี้อารมณ์คุณเป็นอย่างไรและทําไมถึงเป็นอย่างนั้น อย่างเช่น “รู้สึกอายมาก เพราะเจ้านายตําหนิฉันในที่ประชุมพนักงาน” เขียนประโยคนี้ลงบนกระดาษ พร้อมกับเขียนสิ่งที่ทําแล้วช่วยให้รู้สึกดีขึ้น เวลาโมโห เศร้า หรือวิตกกังวล ห้ามเขียนว่ากินไอศกรีมแล้วหายเศร้านะ บางทีคุณอาจนึกอยากจะจัดการยายปากมากที่เมาธ์ให้เพื่อนฟังว่าคุณตดตอนเล่นโยคะท่ายืนด้วย ไม่งั้นก็ไปปั่นจักรยานเพลินๆ นั่งดูหนังเรืองใหม่หรือเล่นเกมเศรษฐีกับลูก พกกระดาษแผ่นนี้ติดตัวไว้ คราวหลังใครพูดจาไม่เข้าหู คุณจะได้ใช้มันให้เป็นประโยชน์

มองให้ออกว่าใครคือศัตรูความผอม

1. คนที่ฉันรู้สึกสนิทมากที่สุดสามคน คือใคร?
2. เอ…ฉันมีพฤติกรรมการกินอย่างไร ก่อนหลังและตอนที่เจอสามคนนี้?
3. ฉันคาดหวังอะไรจากสามคนนี้? (เช่นแฟนใส่ใจพอไหมในวันที่กําลังเซ็งและอยากระบายให้ฟัง เขายอมปิดทีวีแล้วหันมาคุยด้วยเมื่อฉันอยากคุยรึเปล่า?)
4. คําถามสุดท้ายคือ เมื่อคนนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ ฉันควรทําอย่างไร โดยไม่ให้ส่งผลเสียกับแผนลดน้ำหนัก

คุณอาจฟิวส์ขาดเมื่อแม่พยายามโทรมาคุยเล่นในวันงานยุ่ง หรืออาจจะรู้สึกผิดทุกทีที่ไปดริงก์มาการิต้ากับเพื่อนซี้ พอรู้ปัญหาแล้วให้รับมือกับมัน เช่น ดูให้ดีก่อนรับสายว่าใครโทรมา ถ้าเกิดเป็นสายจากแม่ คุณอาจจะโทรกลับตอนที่มีเวลาคุยก็ได้ หรือชวนเพื่อนไปกินอะไรเบาๆ เช่น จิบค็อกเทล