คนส่วนใหญ่ที่ตั้งใจลดน้ำหนักมักประสบกับปัญหา โยโย่ เอฟเฟค น้ำหนักตัวเดี๋ยวลดเดี๋ยวขึ้น อุตส่าห์ตั้งใจออกกําลังกาย ควบคุมอาหาร อดขนมหวานและของทอดมาตลอดเดือน จนน้ำหนักลดไปได้ 5 กิโลกรัม เผลอเเป๊บเดียวน้ำหนักกลับขึ้นใหม่เท่าเดิม ดีไม่ดีขึ้นเพิ่มมากกว่า ดังนั้นการลดน้ำหนักอย่างถาวรต้องเป็นเรื่องของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารอย่างถาวรด้วย หากคุณเปลี่ยนวิธีการกินอาหาร 5 วิธีนี้ได้ จะช่วยให้คุณรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ได้ไม่ยากเลย
1. ไม่กินอาหารขณะดูทีวี
รวมทั้งไม่เล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือ ไม่อ่านหรือตอบไลน์ ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ขณะกินข้าว เพราะการมีกิจกรรมอื่นๆควบคู่ไปกับการกินจะทําให้คุณไม่รู้ตัวว่ากินอาหารเข้าไปมากมายขนาดไหน คุณจะเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมอื่นๆ ทางที่ดี เวลากินก็ให้จิตใจอยู่กับการกินจะได้รู้ตัวว่ากินอิ่มแล้ว นักวิทยาศาสตร์ยังแนะนำว่าคุณไม่ควรนั่งอยู่หน้าจอทีวี หรือจอคอมพิวเตอร์ หรือนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ หรือนั่งเฉยๆวันละหลายชั่วโมง เพราะการไม่เคลื่อนไหวร่างกาย ยิ่งทําให้อ้วนง่าย ลองตั้งกฎง่ายๆให้กับตัวเองคือ จะนั่งดูทีวีวันหนึ่งได้นานเท่ากับเวลาที่คุณออกกําลังกายในวันนั้น เช่น วันนี้คุณไปเดินหรือวิ่ง 30 นาที คุณก็มีสิทธิ์นั่งดูทีวีได้ 30 นาที
2. กินอาหาร Real Food
อาหารแบบ Real Food คืออาหารที่ยังคงสภาพธรรมชาติ เห็นผักเป็นผัก เห็นผลไม้เป็นผลไม้ เห็นเนื้อหมูเป็นหมู ไม่ได้แปลงสภาพมาเป็นลูกชิ้น ดูไม่ออกว่าทํามาจากอะไร ซึ่งอาหารแบบ Real Food นั้นอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ สารอาหาร ส่วนอาหารแปลงสภาพมักไม่เหลือสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แถมด้วยสารปรุงแต่งทั้งน้ำตาล เกลือ ไขมันเทียม สีแต่งอาหาร ฯลฯ ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในอนาคตได้
3. ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้จริง
อย่าคาดหวังว่าจะลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัมใน 1 อาทิตย์ เพราะคงเป็นไปไม่ได้ พอลดไม่ได้ดังที่คาดหวังก็เกิดอาการท้อ ล้มเลิกความตั้งใจที่จะลดน้ำหนัก งานวิจัยพบว่าคนที่ตั้งเป้าหมายว่าจะลดน้ำหนัก 20 กิโลกรัม ภายในเวลา 6 เดือน ยังไม่ได้ผลดีในการลดน้ำหนักเท่ากับตั้งใจทํากิจกรรมเพื่อการลดน้ำหนักแบบวันต่อวัน เช่น ตังเป้าว่าวันนี้จะเดินเร็วๆ 30 นาที หรือตั้งเป้าหมายว่าจะเดินขึ้นบันได 2-3 ชั้นแทนการใช้ลิฟต์ หรือตั้งเป้าหมายว่าจะกินสลัดผักทุกวันๆละมื้อ จะกินผักสดและผลไม้สดให้ได้อย่างน้อยวันละ 4 มื้อ เป็นต้น การตั้งเป้าหมายเป็นกิจกรรมเพื่อการลดน้ำหนักจะช่วยให้เราเปลี่ยนพฤติกรรมจนลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมายจริงๆ
4. เลิกไปกินอาหารนอกบ้าน (บ่อยเกิน)
เวลาไปร้านอาหาร ทั้งกลิ่นทั้งรูปลักษณ์ ทั้งเมนูหลากหลาย ทําให้คุณมักกินเกินอิ่มหรือสั่งอาหารมากเกินแม้จะไม่รู้สึกหิวก็ตาม แถมอาหารตามภัตตาคารมักเป็นอาหารพลังงานสูง หวานมันเต็มที่ หากคุณกินข้าวนอกบ้านสัปดาห์ละหลายครั้ง คงลดน้ำหนักตัวไม่ได้แน่ๆ ทางที่ดีควรวางแผนเมนูอาหาร เช้า-กลางวัน-เย็น และอาหารว่างยามบ่ายไว้ล่วงหน้าทุกวัน วางแผนเมนูไว้ทั้งอาทิตย์เลยยิ่งดี แล้วยึดมั่นตามเมนูอาหารพลังงานต่ำที่ตั้งไว้ เช่น ทูน่าสลัด ยำส้มโอ หรือส้มตํา
5. เพิ่มกิจกรรมที่ร่างกายได้เคลื่อนไหว
คุณรู้ดีว่าหากจะลดน้ำหนัก ก็หนีไม่พ้นการออกกําลังกาย แต่การเคลื่อนไหวร่างกายตลอดทั้งวันก็สําคัญมากเช่นกัน คุณควรเตือนตัวเองให้ลุกจากโต๊ะทํางาน ออกไปเดินรอบๆออฟฟิศทุกชั่วโมง หรือการทํางานบ้าน ปัดกวาดเช็ดถู ตัดหญ้าทําสวน ฯลฯ ล้วนได้เผาผลาญไขมันทั้งสิ้น หรือเย็นๆออกไปขี่จักรยานรอบหมู่บ้านสักชั่วโมงก็สลายไขมันไปได้ 250 แคลอรี ไปเรียนเต้นรำหรือเปิดเพลงกระโดดโลดเต้นคนเดียวอยู่ในบ้านก็เผาผลาญไปอีก 220 แคลอรี เดินขึ้นบันได เดินไปถ่ายเอกสารด้วยตัวเอง จัดบ้าน จัดเสื้อผ้า ฯลฯ คอยบอกตัวเองให้ขยับเขยื้อนร่างกายบ่อยๆ ไม่นั่งเฉยๆ คุณก็จะสามารถเผาผลาญพลังงานได้ทั้งวัน
ลองเปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้ถูก ออกกําลังกายให้มากจนติดเป็นนิสัย คุณก็จะลดน้ำหนักได้ไปตลอดไม่กลับมาอ้วนอีกแล้วค่ะ
แนะนำ: 57 วิธีในการลดน้ำหนักตลอดกาล ตามหลักวิทยาศาสตร์